วันพุธที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

Motorola Razr ทายาทตำนานมือถือบางเฉียบ


Motorola Razr ทายาทตำนานมือถือบางเฉียบ
เมื่อเอ่ยถึงชื่อ Motorola Razr V3 เมื่อสักห้า-หกปีก่อน เชื่อว่าหลายๆ คนที่อยู่ในวงการโทรศัพท์มือถือหรือนักเล่น ล้วนไม่มีใครที่ไม่รู้จักมือถือรุ่นนี้ เนื่องจากความที่มันเป็นโทรศัพท์ดีไซน์ฝาพับฮอทฮิตที่มาพร้อมกับคุณสมบัติ ที่ตราตรึงใจ ไม่ว่าจะเป็นวัสดุประกอบที่หรูหรา ขนาดตัวที่บางเฉียบเพียง 13.9 มม.หรือแม้กระทั่งราคาที่เล่นเอาขนหัวลุกอยู่ไม่น้อยเมื่อครั้งเปิดตัว แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป เทคโนโลยีใหม่ๆ ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ก็ส่งผลให้มันแปรสถานภาพจากอุปกรณ์พกพาที่เคยมีเสน่ห์เย้ายวนมาเป็นโทรศัพท์ มือถือในตำนานอีกหนึ่งรุ่นที่ใครต่อใครคิดถึง ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนั้น กลางปีที่ผ่านมา โมโตโรล่าจึงได้เดินหน้าสานต่อความสำเร็จครั้งก่อน และเปิดตำนานหน้าใหม่ ด้วยการจับเอาชื่อซีรีส์ดังกล่าวมาตั้งเป็นชื่อรุ่นสมาร์ทโฟนสายพันธุ์แอ นดรอยด์ตัวใหม่ล่าสุดที่มีชื่อว่า Motorola Razr เพื่อตอกย้ำถึงความบางที่คุ้นเคย

อันดับแรกเมื่อเปิดถุงมา เราจะพบกับ Motorola Razr ที่มาพร้อมกล่องสีแดงเข้มขนาดกระทัดรัด (สีกล่องจริงจะเข้มกว่าในภาพ) โดยกล่องชั้นแรกจะมีลักษณะเป็นกล่องสอด เพิ่มลูกเล่นบนกล่องด้วยพื้นลายเลื่อม ตัดกันดีกับสัญลักษณ์โลโก้ตัว M ที่อยู่ตรงกลาง ขณะที่ด้านล่างใต้โลโก้จะเป็นตัวอักษรสกรีนชื่อรุ่นเสีเงิน

ซึ่งเมื่อเราเลื่อนกล่องชั้นแรกที่ห่อหุ้มอยู่ออก ก็จะพบกับกล่องด้านในสีแดงเข้มลวดลายเดียวกับกล่องชั้นนอก เด่นชัดด้วยรูปโทรศัพท์ขนาดใหญ่ในลักษณะหันข้างเพื่อแสดงให้เห็นถึงความบาง

ส่วนอุปกรณ์ต่างๆ ที่แถมมาในกล่อง ได้แก่ หูฟัง Small Tallk ขนาด 3.5 มม. , สาย Micro USB, คู่มืออย่างย่อ , เอกสารความปลอดภัย,  ใบรับประกัน และหัวอะแดปเตอร์ สำหรับชาร์จไฟบ้าน ซึ่งการชาร์จแบบปกติ (ผ่านไฟบ้าน) เต็ม 100% หนึ่งครั้งจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 

สำหรับในส่วนของตัวเครื่อง Motorola Razr มาพร้อมกับหน้าจอทัชสกรีน ขนาดตัวกว้าง 69 มม. ยาว 131 มม. และบางเพียง 7.1 มม. มีน้ำหนัก 127 กรัม ตัวเครื่องมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า เพิ่มความโค้งมนให้ดูไม่ทื่อเกินไป ด้วยการลบมุมทั้งสี่ด้านบน-ล่างเล็กน้อย และเสริมความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นด้วยหน้าจอกระจกแบบ Gollira Glass

ส่วนด้านขวาของตัวเครื่องด้านบน จะเป็นปุ่มพาวเวอร์ กดค้างสำหรับการเลือกเมนูเพื่อปิดเครื่อง หรือกดแล้วปล่อยเพื่อเข้าสู่โหมด Sleep ส่วนสองปุ่มด้านล่าง เป็นปุ่มเพิ่มหรือลดเสียง

ขณะที่ฝั่งซ้ายของตัวเครื่อง จะมีเพียงช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Micro Sim และช่องใส่ MicroSD สำหรับการเพิ่มหน่วยความจำภายนอก

และสำหรับด้านบนสุดของตัวเครื่อง จะเป็นที่อยู่ของช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม., พอร์ท Micro USB และHDMI สำหรับการต่อออกเพื่อใช้งานร่วมกับทีวี ซึ่งถ้าสังเกตจะเห็นว่าด้านบนของตัวเครื่องจะเป็นส่วนที่มีความหนามากกว่า ตัวเครื่องทั้งหมด 

เมื่อพลิกกลับมาที่ด้านหลัง ส่วนที่ปูดออกมาจะเป็นที่อยู่ของกล้องหลังที่มีความละเอียดมากถึง 8 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED  และสามารถถ่ายวีดีโความละเอียดระดับ HD ที่ 1080p ได้

สำหรับวัสดุด้านหลังจะทำขึ้นจากไฟเบอร์เคฟล่าร์แบบ เลเซอร์คัทที่ให้ความทนทาน ส่วนพื้นที่นอกเหนือจากเคฟล่าร์จะเป็นแสตนเลสสตีล ขณะที่ตัวเครื่องหล่อขึ้นจากวัสดุชิ้นเดียวจึงทำให้ไม่สามารถถอดแบตฯ ออกเองได้ สำหรับแบตเตอรี่มีขนาด 1750 แอมป์ (ถือว่าพออยู่ได้ 1 วันสำหรับการใช้งานระดับปานกลาง) ส่วนในเรื่องของการประกอบค่อนข้างแน่นหนา และดูสมราคา

ย้อนกลับมาดูด้านบนของตัวเครื่องด้านหน้ากันบ้าง เหนือลำโพงขึ้นไปจะเป็นแถบแสตนเลสสีเงินขนาดเล็ก สลักคำว่า Motorola ตัดกับตัวเครื่องสีดำสนิท ส่วนสองจุดเล็กๆ ใต้แถบ จะเป็นตำแหน่งของกล้องหน้าขนาด 1.3 ล้านพิกเซล และไฟแสดงสถานะ ซึ่งเมื่อมีข้อความแจ้งเตือนต่างๆ เข้ามา จะกระพริบเป็นเป็นสีเขียว และเปลี่ยนเป็นสีแดงเมื่อแบตเตอรี่ใกล้จะหมด

ส่วนด้านล่างของตัวเครื่อง จะเป็นปุ่มกำกับต่างๆ ตามมาตรฐานแอนดรอยด์ อันได้แก่ปุ่มเมนู, หน้าแรก, ย้อนกลับ และค้นหา

ข้อมูลจาก http://www.pantip.com/tech/techblog/article.php?articleID=TE3048000


Motorola Razr ราคาปัจจุบัน
  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น